วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Paper town

เหตุผลที่นั่งดูหนังเรื่องนี้ 
คือ ชอบ ค่าร่า 
แต่ให้ตายเถอะ 
พอดูจบแล้ว ติสสแตกซะงั้น

Papertown เมืองกระดาษ

เมืองที่ไม่มีจริง มีแต่กระดาษ
ที่สร้างขึ้นมา ถูกสมมุติขึ้นมา
ไม่มีจริงในแผนที่📌🔭



เหมือนความรู้สึก ของตัวเอง
ที่จับต้องไม่ได้
มองกระจก บางครั้งเหมือน
"ปลอม"ไม่จริง 

ไม่ใช่อย่างที่ทุกคนเห็น 
ไม่ใช่อย่างที่เราตอบโต้
แสดงอารมณ์แบบนั้น

มีหลายอย่างซ่อนอยู่


อยากหนีไปเมืองกระดาษ
อยากหายไปเลย  
เวลา ที่รู้สึกว่า ตัวเอง
กำลัง"ปลอม"




วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เด็กที่ไม่มีร่มให้กาง



เพราะไม่มี เราจึงปรับตัว
และเข้าใจบางเรื่องได้

☀️☀️⛅️⛅️☀️☀️
เพราะแดดมันร้อน
ถึงต้องรีบเดิน
ให้ผ่านแสงอาทิตย์
ไปเร็ว เร็ว

อย่าน้อยใจ...
ถ้าในมือ..ไม่มีร่มให้กาง
อย่าเสียใจ..
ที่ผ่านไปได้ลำบากกว่าคนอื่น

จงผ่านปัญหาให้ได้
เหมือนเดินท่ามกลางแดดจัด

เพราะสุดท้าย ถ้าผ่านปัญหา
ไปได้ ด้วยตัวเอง...

เราจะรู้สึกมีค่าพอเสมอ

และอยากลุกขึ้นยืน
ปรบมือให้ตัวเอง

ฝ่าฟันต่อไป
เตรียมเสียงปรบมือ 
ให้ตัวเองไว้เลย นะ lucky


วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Who I am?




ชีวิตเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

เคยมีคนถาม...
แล้วไม่รู้จะตอบเค้าว่ายังไงบ้างไหม

อนาคตคิดว่าจะทำอะไร รู้หรือยัง?

เป็นคำถามง่ายๆ อาจจะต้องการคำตอบ
หรือไม่ต้องการ หรือแค่ถามแค่ให้คิด
ก็ไม่แน่ชัดนัก 

แต่เรามักจะไม่มีคำตอบให้เสมอ
ไม่เคยรู้ว่าตัวเอง ต้องการอะไรกันแน่

ผู้คนมักบอกเราบ่อยๆว่า ชอบคุยกับเรา
สบายใจที่คุยกับเรา 
นั่นเป็นเพราะ ตัวเราเอง 
มีความรู้สึกไว ต่อความคิดของคนอื่น
จับความต้องการของคนอื่นได้
เลยทำในเรื่องที่เค้าชอบ ให้กับเค้าได้ 
เมื่อฟังใครแล้ว เราจะรู้ทันที
ว่าจะพูดยังไงให้เค้ารู้สึกดีได้ 

เพราะเราอยาก"ให้"กับเค้า 
เราเลือกที่จะให้มากกว่ารับ
เราเลือกที่จะไม่สำคัญอะไรเลย
ก็แค่....
อยากเห็นเค้าสบายใจ และปล่อยวางลง


มันเป็นสิ่งดีที่เรารู้ความต้องการของ
คนอื่นได้ง่าย มันเอื้อต่อการทำงาน


เราสามารถอยู่กับคนได้ทุกประเภท
และแสดงออกของเรา
กับทุกคนไม่เหมือนกัน
เพราะ คนแต่ละแบบชอบไม่เหมือนกัน
แล้วเราก็รู้ในความชอบนั้น 
เราถึงโต้ตอบ และกลมกลืนกับผู้คน
ได้มากมาย เช่นนี้
และนี่คือ สิ่งที่คนอื่นเห็น


แต่สิ่งที่เราเห็นตัวเองหล่ะ
คืออะไร...

ถ้าเราอยู่ท่ามกลางผู้คน
เราจะโฟกัส จุดสำคัญออกไป
จากตัวเอง และโต้ตอบในสิ่ง
ที่คนอื่นชอบ ได้เสมอ
เราถึงไม่ค่อยรู้ และใส่ใจ
ในความต้องการของตัวเอง
และมักจะมีคำพูดบ่อยๆกับตัวเองว่า
สำหรับเราแล้ว"ยังไงก็ได้ทั้งนั้น"

คำถามข้างบนสุดทำให้ฉุกคิด....

Who i am?
What i want?

เป็นที่มาของ อาการติสแตก

มันเป็นเหตุผลที่เราชอบอยู่คนเดียว
ในหลาย ๆ ครั้ง
เป็นเหตุผลที่เราชอบทำตัวหายไป
จากสังคมรอบตัวเรา
มันเป็นเหตุผลที่ ทำไมบางที
เราถึง เศร้า หรือ เหงาแปลก แปลก

เพราะเรากำลังตามหาตัวเอง
ตามหาการประจักษ์
ต่อส่วนลึก....
ในความต้องการของตัวเอง 


ภาพในหัว คือ ภาพที่ตัวเองเดินไป
ในที่กว้างๆไม่มีใคร แต่เดินไปคนเดียว
อิสระ ได้ปล่อยวาง....
ได้คุยกับตัวเอง ฟังเสียงตัวเอง

สักวันเมื่อเราไปเจอสถานที่นั้น
เราจะใช้เวลา อยู่กับมันให้นาน
เท่าที่ใจตัวเอง อยากจะอยู่...

และคงไม่กลับไปตอบคนที่เคยถามเรา
แต่จะตอบคำถามในใจตัวเอง เบา เบา
ว่าชีวิตนี้ เราเองต้องการอะไรกันแน่..

แด่หัวใจในวันที่ จะกลับมาหาตัวเอง..



วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ไปดูงานภาคใต้


การเดินทาง 
ออกจากบ้าน ถึงดอนเมือง ประมาณ
6.00 น✈️แอร์ เอเชีย เครื่องออก
ประมาณ 7.45 น.ใช้เวลาเดินทาง
ชั่วโมงกว่า ถึงสนามบินภูเก็ต




เดินทางต่อ โดยรถตู้จากสนามบิน
ไป เอาเลท ภูเก็ต เป็นร้านแรก
ลักษณะเป็นร้าน ต่อกันสามร้าน
XL WH EX มีเคาเตอร์ อย่ตรงกลาง
ฝั่ง xl ติด wh 
ลักษณะลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ
ส่วนใหญ่ นักท่องเที่ยว และคนพื้นที่
ลูกค้าเข้าออกทั้งวัน ยอดขายดีที่สุดในหน่วย


Xl เอาเลทภูเก็ต

Wh เอาเลทภูเก็ต

Ex เอาเลทภูเก็ต

ภายในร้านมีทีมงาน 3 คน น้องโบ้ท ดูร้านwh เป็น หน งาน(ตอนนี้ท้อง กำหนดคลอด 20 ม ค 58)วันที่ไปน้องโบ้ทหยุด
น้องกิ่งฟ้า เป็นขายดูร้าน Xl 
น้องดาเป็นขาย ดูร้าน Ex 
และแคชเชียร์เอาเลท อีก 1 คน
เวลาทีมงานหยุด ไม่ต้องมีคนมาแทนก็ได้ที่สาขานี้ ทีมงานแทนกันเอง

ร้านที่มองเห็นมีหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง 

สภาพร้าน ที่ค่อนข้างมีหลายจุดที่พัง
-ฐานหุ่นด้านหน้าร้านผุพัง จากการที่ฝนตก
แล้วน้ำสาดลงมาโดน ทำให้ฐานที่เป็นไม้ผุพัง




-หลอดไฟดับเป็นจำนวนมาก
-กล้องวงจรปิด พังใช้ไม่ได้
-ป้ายหน้าร้าน ตัวอักษรหลุด
-หลังจากเปลี่ยนแอร์ช่องแอร์หลังร้านxl
 ช่างของเอาเลท ไม่ได้ปิดฝ้าให้


สินค้าภายในร้าน
-ร้าน xl เป็นร้านที่ขายดีที่สุดในสามร้าน
สินค้ามีหลากหลายพอสมควร ของเยอะ
แต่ไม่แน่นร้านมาก
-ร้าน wh สินค้าผู้หญิงจะขายดี แต่ปริมาณสินค้ามีน้อยมาก ไม่มีของหลากหลาย
ชั้นวางผ้าด้านบน และราวแขวนโล่ง
ถ้าเพิ่มการส่งของมากขึ้น จะทำให้ยอดดีกว่านี้
-ร้าน ex ปริมาณสินค้า มีเยอะพอสมควร
แต่ไม่ค่อยมีของใหม่ๆเหมือนที่เห็น สาขา
กรุงเทพได้

ทีมงาน

-น้องกิ่ง เป็นคนพื้นที่พูดน้อย ค่อนข้างเก็บตัว
ใช้วิธีเข้าหาน้องก่อน อยู่ในร้านอาจจะอึดอัด
เลยชวนไปซื้อข้าวข้างนอก เดินไปคุยไป
จับใจความได้ว่า น้องดีใจและอยากให้มาหา
พวกเค้าบ้าง มาดูว่าพวกเค้าอยู่กันยังไงบ้าง
ขณะที่พูด น้องกิ่งไม่สบตา แต่พอเราไม่มอง
น้องกิ่งจะมอง การสื่อสารน้องไม่สามารถตอบโต้ได้ทันที เป็นคนขาดความมั่นใจ
และเข้าใจยากพอสมควร

-น้องดา เป็นคนพื้นที่พูดตรงๆเข้าใจว่าย
การแสดงออกความรู้สึกชัดเจน 
ชอบก็บอกออกมา อันใหนไม่โอเคร
ก็มั่นใจที่จะพูดออกมา กล้าพูดในเรื่องที่คิด
แต่ขาดสื่อสัมพันธ์กับลูกค้า สังเกตุจากการ
พูดคุย ถามเรื่องลูกค้า น้องค่อนข้างคิดลบ
และมีทัศนคติไม่ดี กับลูกค้าเวลาเจอลูกค้า
ที่มีปัญหา ส่วนกับทีมงานเข้ากันได้ดี กับทีม

-น้องโบ้ท คนพื้นที่วันที่ไปไม่ได้เจอ 
แต่เท่าที่โทร คุยกัน เป็นคนพูดจาตรงๆคล้ายๆน้องดา แต่จะมีความเป็นผู้นำมากกว่า 
น่าจะเป็นคนที่ความคิดมีผลกับทีม เอาเลทภูเก็ตมากที่สุด
 
สื่อสัมพันธ์ในทีมส่งผลกับลูกค้า
  การถ่ายรูปเซลฟี่ที่สาขานี้ ไม่มีเลย 
ข่าวสารจากส่วนกลางมาไม่ค่อยถึง เหมือน
สภาพขาดการใส่ใจเป็นอย่างมาก ทีมงาน
ขาดความสุขในการทำงาน เลยทำให้สื่อสัมพันธ์กับทีม หรือ กับลูกค้าแย่ไปด้วย
แก้ใขคือ ต้องใส่ใจความต้องการของทีมงาน
ด้วย จากนิสัยของคนใต้ ถ้าเข้าถึงใจเค้า
เค้าจะเต็มที่กับการทำงาน ให้ใจกลับคืนมา



__________________
หลังจากอยู่เอาเลท ออกเดินทางต่อ
ไปโอเชี่ยนภูเก็ต ซึ่งอยู่ในเมือง
นั่งรถแท้กซี่ป้ายดำ มีการตกลงราคา
กันก่อนที่จะขึ้น ลุงคนที่ใช้บริการ
จะเป็นคันที่ น้องอ้อม น้องรส
ใช้บริการประจำ ไว้ใจได้

โอเชี่ยนภูเก็ต และหน้าร้านอยู่ชั้น1



ลักษณะร้าน 

เป็นร้านแฝด แบ่งครึ่งคนละฟาก ขวามือ
เป็นร้าน ex ซ้าย เป็น wh 
มีเคาท์เตอร์อยู่ตรงกลาง 
กล้องวงจรปิด ใช้ได้
มองจากด้านหน้าและด้านใน การจัดตกแต่ง
ร้านมีความสวยงาม น่าเลือกซื้อ 

สิ่งที่ต้องปรับปรุงนิดนึง คือ มีหลอดไฟดับ
เป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านดูมืด
 

สินค้าจะแน่นร้านพอสมควร อาจเป็นได้ที่
ร้านเล็ก และโอนของไปที่ใหนไม่ได้
เลยทำให้สินค้ามีเยอะ และไม่ค่อยมีของใหม่

ลูกค้าจะเป็นคนไทยส่วนใหญ่ 
เป็นลูกค้าประจำ หรือชาวต่างชาติ 
ที่มาอาศัยอยู่ภูเก็ต แล้วมาซื้อ เพราะ
สามารถหาไซร์ตัวเองได้ที่นี่

ทีมงาน มีน้องนกเป็นขายหลัก น้องเหมียว
เป็นแคชเชียร์ มีทีมงาน 2 คน
-น้องนก เป็น GS ด้วย สื่อสัมพันธ์ IT
และคนรอบข้างค่อนข้างดีมาก พูดคุยสนุกสนาน เป็นกันเอง เข้ากับคนอื่นง่าย
เป็นคนอิสานแต่มาอาศัย กับแฟนและหางานทำที่ภูเก็ต 


-น้องเหมียว ครอบครัวมาจากที่อื่น แต่มา
อยู่ที่ภูเก็ต ค่อนข้างขี้อาย ยิ้มเก่ง และพูดน้อย

 ทีมโอเชี่ยนดูแล้วมีความสุขในการทำงาน
สัมผัสได้จาก การทำงานในร้าน การจัดร้าน
การถ่ายเซลฟี่ แต่ยังมีไม่มากประมาณ 6 ใบได้
ต้องเข้าหาลูกค้ามากกว่านี้ ด้วยนิสัยของน้องนกที่ดูเฟรนลี่กับทุกคนได้ ทำจุดนี้ให้เป็นจุดเด่นของตัวเอง จะทำให้ยอดดีขึ้น 
เพราะเป็นร้านที่ ค่อนข้างเงียบ ต้องสร้างลูกค้าประจำ และสร้างความคุ้นเคยกับลูกค้า ถึงจะขายได้ 


@@@@@@-----------@@@@@@@

หมดวันแรก ไปสองสาขาที่ภูเก็ต
เข้าพักที่โรงแรม ใกล้ๆกับ
โอเชี่ยนภูเก็ต 

ออกเดินทางต่อ ในวันรุ่งขึ้นไปที่
เอาเลทกระบี่

เดินทางโดยรถตู้ จากภูเก็ตไปกระบี่
ไปขึ้นรถที่ บขส 2 ภูเก็ต 




นั่งรถ 3 ชม กว่า ออกจากภูเก็ต เวลาประมาณ
9.00 น. สิ่งที่ได้จากการเดินทางอย่างนึงคือ การได้ไปเห็นโลกภายนอก
ที่แตกต่างจากที่เราเคยเห็น




 มาถึง บขส กระบี่ ประมาณ บ่ายโมง
อากาศค่อนข้างร้อนมาก นั่งมอไซค์ ต่อ ไปที่
เอาเลทกระบี่ 


ลักษณะร้านกระบี่ เป็นร้านหน้าหลัง
ร้านEX อยู่ด้านหน้า Wh อยู่ด้านใน
กล้องวงจรปิด ใช้ได้


สินค้ามีหลากหลาย และมีจำนวนมาก
กะบะ กางเกงด้านหน้าสูง จนมองไม่เห็น
ลูกค้า แก้ใขให้เอาลงต่ำกว่าเดิมแล้ว

ทีมงานมีทีมงาน 2 คนภายในร้าน
น้องเหนียม เป็นขายหลัก น้องอาร์เป็นแคชเชียร์น้องใหม่ อายุงานยังไม่ถึงเดือน
น้องๆทั้งสองคน กำลังปรับตัวเข้าหากัน
เพราะเพิ่งร่วมงาน ตอนแรกๆยังปรับตัว
ไม่ได้ มีปัญหากันพอสมควร ก่อนไป
รักมีการพูดคุยกับน้องเหนียมมาบ้างแล้ว
ทำให้พอจะรู้ว่า น้องๆมีปัญหาอะไรกันบ้าง

-น้องเหนียมคนพื้นที่ เป็นคนที่ภายนอกดูสดใสร่าเริง ถ้าไม่สังเกตุจะไม่รู้ว่าน้องมีปัญหาอะไร นิสัยคือ น้องจะเอาเรื่องบางอย่าง มากดดันตัวเอง เรื่องงานเป็นส่วนใหญ่
เมื่อมีปัญหาจะไม่พูดออกมาตรงๆ คือ ถ้ามีปัญหา กับอีกคนนึง แต่เลือกที่จะเก็บ ไม่เคลียร์ สะสมจนเป็นความเครียด แล้วแสดงออกมา ตอนที่ตัวเองถึงขั้นที่เก็บอารมณ์ไม่ได้แล้ว ตอนนี้เท่าที่คุยตอนนี้ แค่มีคนรับฟังน้องก็จะดีขึ้น อาจจะช่วยอะไร น้องไม่ได้มาก แต่การรับฟังเหนียม จะเป็นการแก้ปัญหา ความเครียดของน้องให้ลดลงได้ ถ้าน้องยังเครียดกับเรื่องรอบตัว จะส่งผลกับทีมงานใหม่ คือน้องอาร์

-น้องอาร์เป็นคนพื้นที่ กำลังเรียนรู้งาน
และปรับตัวเข้ากับน้องเหนียม เป็นคนพูดตรงๆ สไตล์คนใต้ มีความสนใจที่จะเรียนรู้




ทีมงานกระบี่มีปัญหาเรื่องวันหยุด 
เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องการแทน
ต้องจัดให้หยุดติดต่อกัน ทำให้ระยะเวลา
ที่กว่าจะถึงวันหยุดวิคต่อกันนาน ทำให้น้องๆ
เหนื่อยและล้า เป็นไปได้อาจจะรับพาร์ททาม
ไว้แต่ไม่ประจำ มาแสตนบายเวลาน้องๆไม่สบาย หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน อาจจะเป็นนักศึกษา หรือ คนรู้จักที่ไว้ใจได้

ขากลับตอนเย็นต้องไปขึ้นเครื่องที่
สนามบินกระบี่ น้องเหนียม ให้พ่อ 
และน้องชาย ขับรถไปส่งที่สนามบิน


เชคอินและขึ้นเครื่องกลับประมาณ 19.50น




เดินทางโดยสวัสดิภาพ 
ถึงกรุงเทพประมาณ สามทุ่มครึ่ง 
ของวันที่ 13-12-58


สิ่งที่ได้มากกว่าการดูงานหน้าร้าน
 การเดินทางไปดูงานใต้ภาคใต้ ทำให้ความคิดของรักโตขึ้นมากกว่าเดิมมาก การไปพูดคุยกับเด็กที่อยู่ในพื้นที่จริงๆทำให้เห็นถึงปัญหาหลายอย่างที่ต้องแก้ อย่างแรก คือ ความสุข
ในการทำงานของทีมภาคใต้ จะน้อยกว่า
ทีมอื่น ต่างคนต่างอยู่ด้วยความที่ห่างไกลกัน
สื่อสัมพันธ์ IT ดีในระดับนึง
แต่ไม่สามารถเข้าถึงจิตใจของแต่ละคนได้
การแสดงออกทางไลน์ บางคนขัดแย้งกับชีวิต
จริง เช่น น้องกิ่งฟ้า น้องเหนียม มองเหมือนไม่มีปัญหา แต่มี ส่วนใหญ่เป็นปัญหา จากความคิดของพวกเค้าเอง เรามองเหมือนน้องๆโอเคร จากการมองภายนอก หลังจากนั้นแล้วก็ไม่มีใครสนใจ ว่าสิ่งที่เค้าคิดมันผิด 
  ต้องแก้ใขเรื่องจิตใจ เพิ่มความสนใจ
ในตัวทีมงานแต่ละคนให้เค้ารู้สึกว่ามีคุณค่า
มากขึ้น และอยากทำงานมากขึ้น 

 การได้เห็น ได้รับรู้ มันเป็นมากกว่า
ที่เราจะมานั่งอ่านหนังสือ แล้วนึกภาพตาม
ความมีน้าใจของคนในพื้นที่ คนขับรถแท้กซี่
ป้ายดำ ที่คอยดูแลเรา แนะนำตลอดการเดินทาง เค้าทำงานมากกว่าค่าจ้าง 
หรือ ส้ม ที่น้องนก น้องเหมียวสาวขี้อาย
แบ่งให้กินตอนอยู่ในร้าน รอยยิ้มความดีใจที่ได้เจอกัน เหมือนพวกเค้ารอคอย ให้ใครสักคนมาหา......
หรือ น้องเหนียม ให้พ่อและน้องชายขับรถ
ไปแวะทานข้าว ริมหาด และไปส่งที่สนามบิน
โดยที่เราไม่ได้จ้าง แต่นี่คือ น้ำใจที่รักได้เรียนรู้ การให้คนอื่นก่อน สำคัญแค่ใหน

 เรื่องบางเรื่องต้องทำ และออกเดินทาง 
เราถึงจะพบคำตอบว่า จริงๆแล้วเราจะคิดวิธีแก้ปัญหายังไง เหมือนการหาหนทาง หารถ
ที่จะไปให้ครบทุกที่ 
  


 The end (ภูเก็ตvsกระบี่)12-13/12/58
 

































วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

โลก คู่ ขนาน


ถ้าเรานั่งทางทิศตะวันตก
เราจะเห็น ตะวันตกดิน
ก่อนที่จะเฝ้ารอ ให้ตะวันขึ้นใหม่

ถ้าเรานั่งทางทิศตะวันออก
เราจะเห็นตะวันขึ้นใหม่
ได้ทุกวัน แล้วแต่เราเลือกทิศที่จะมอง

ชีวิตมีสองด้านเสมอ




ในวันที่พาแม่ไปโรงบาล
มันคือข่าวดีที่สุดคือ หลังจากที่แม่
เครียดกับอาการป่วยมานาน 
แม่ไม่ต้องทำคีโม ไม่ต้องฉายแสง
รอยยิ้มแม่ ชัดเจนบนหน้า
เราอยากให้แม่รู้สึกดี 
แล้วจะทำยังไงได้หล่ะ !!
ไปเช่าจักรยานมาขับไปรอบๆ
เสียงแม่ร้องทัก สิ่งที่มองเห็นรอบๆ




รอยยิ้มแม่ 
มันเป็น สัณญาน ว่า....
วันนี้จะเป็นวันเริ่มต้นวันใหม่ 
ชีวิตที่สดใส กลับมาอีกครั้ง
หลังจากที่เราและแม่ ต้องเครียด
ที่ต้องจากบ้านมา และต้องวนเวียน
ที่โรงพยาบาลมาพักใหญ่


ระยะทางที่ปั่นจักรจาน
แล้ว กลับบ้าน....
ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า

สองข้าง ของโลกคู่ขนานกัน
บางทีใกล้จนแทบแยกไม่ออก
ที่สวนรถไฟ....
ภายในรั้ว สีเขียว ต้นไม้แย่งกันขึ้น
ภายนอกรั้ว รถที่แย่งกันวิ่ง





เหมือนชีวิตที่มีสองด้านเสมอ 
เรียนรู้ที่ทุกข์
เพื่อที่วันนึงจะได้รู้ว่า 
สุขจริงๆเป็นยังไง


จดหมายจากดาวอังคาร






จดหมายจาก เด็กหญิง รัก เขียนถึงตัวเอง

อยากให้เธอได้อ่าน 

เธอต้องเรียนรู้และฉลาด
ด้วยไหวพริบ และกึ๋นของตัวเอง 

ฉันอยากให้เธอคิด 
และมองโลกในแง่ดี อย่าคิดว่าใต้ฟ้านี้
มีแต่เรื่องทำไม่ได้ เป็นไม่ได้ 
หัดคิดให้เป็นบวกไว้แหละดี 

ฉันอยากให้เธอหัดฝัน
เมื่อไรเธอฝันเป็น...
ไม่ว่าจะเป็นใฝ่ฝัน หรือความฝัน 
เธอจะรู้ว่าโลกนี้มันน่าอยู่เพียงไหน 

ฉันอยากให้เธอ พูดแต่เรื่องดี ดี
พูดแต่เรื่องสวยงาม 
จงเป็นคนสุดท้าย ที่ให้ร้ายคนอื่น 
และจงเป็นคนแรกที่ให้กำลังใจ
และชื่นชม ผู้คน

ฉันอยากให้เธอทำเรื่องแปลกๆ
เธอไม่จำเป็นต้องเดินตาม
ชีวิตประจำวันของใคร...
อย่าเก็บความคิดแปลก 
เพียงเพราะเห็นว่ามันไม่เหมือนใคร

ฉันอยากบอกให้เธอกล้าแดด กล้าฝน
เพราะภายใต้ไออุ่นของดวงอาทิตย์
เธอจะได้รับวิตามินD
และภายใต้ฟ้าที่มีฝน 
มันจะทำให้เธอร้องไห้
โดยไม่มีใครเห็นน้ำตา 
ฉันอยากบอกให้เธอออกกำลังกายทุกวัน
อย่างน้อยคนเราก็ต้องเคลื่อนไหว ทะมัดทะแมง
เธอได้ออกแรงเสียบ้าง 
เธอจะแข็งแกร่งไม่อ่อนแอ 

ฉันอยากให้เธอยิ้ม 
และอยู่กับโลกด้วยความรัก
ยิ้มอาจจะไม่ชนะทุกสิ่ง 
ยิ้มมากๆอาจจะดูเหมือนคนบ้า
แต่มันก็ดีกว่าหน้าบึ้งหน้างอเป็นไหนๆ 

ฉันอยากบอกให้เธอรู้จักอดทน
เธอต้องเรียนรู้ว่าเธอไม่มีทางได้ทุกๆ อย่างที่เธอหวังไว้ อดทนและอย่าได้เสียกำลังใจ อย่าท้อและขอให้ 
เริ่มใหม่อย่างมีพลัง 

ฉันอยากบอกให้เธอเขย่งขาขึ้นให้สูง
ไม่มีอะไรที่สูงไปกว่าสองมือเรา
จะเอื้อมคว้า มันมา...
เพียงแค่ว่าเรายืนยันที่จะไม่ยืนอยู่กับที่ 

ฉันอยากบอกให้เธอมีความสุข
แต่อย่าลืมทุกข์ด้วยล่ะ คนที่ไม่เคยมีความทุกข์ เขาสุขจริงๆไม่เป็นหรอก 


ไอคิวมันไม่ได้ติดมาแต่บนฟ้า 
ไม่ฉลาดก็มีความสุขได้ไม่ต้องห่วง 
อย่าน้อยใจถ้าตามใครเขาไม่ทัน 
อย่าเสียขวัญถ้าเราช้ากว่าใครๆ 
อีคิวมันต้องหาเองบนโลกนี้ 
ไม่ฉลาดก็น่ารักและมีความสุขได้ 
"อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุง เธอยังมีกำลังใจจากฉัน ไม่ต้องกลัว"

คิดถึงนะ กลับมาอ่านด้วยเวลาที่ คิดถึงกัน
คุณ ลักกี้